การลงสารคลอเรค


ข้อสงสัยว่าจะใช้โพแทสเซียมคลอเรตหรือใช้โซเดียมคลอเรตดีกว่ากัน ขออธิบายว่า สารทั้งสองตัวมีความแตกต่างกันนิดเดียวคือตัวหนึ่งเป็นโซเดียม และอีกตัวหนึ่งเป็นโพแทสเซียม ซึ่งไม่ว่าจะเป็นตัวไหนก็ตาม สามารถระเบิดได้ทั้งนั้นถ้าจัดการไม่ถูกต้อง เพราะว่าทั้งคู่เป็นสารที่สามารถปลดปล่อยออกซิเจนออกมาทำปฏิกริยากับสารอื่นได้หรือที่เรียกว่าเป็นสารออกซิไดซ์ อย่างแรงนั่นเอง และตัวที่ทำหน้าที่ในการกระตุ้นให้ลำไยออกดอกได้ก็คือตัวอนุมูลคลอเรต ไม่ใช่โซเดียมหรือโพแทสเซียมที่เป็นองค์ประกอบ ดังนั้นสารทั้งสองตัวนี้จึงสามารถใช้ในการกระตุ้นการออกดอกของลำไยได้ผลพอ ๆ กัน

สารโพแทสเซียมคลอเรตแต่เดิมนั้นใช้เป็นองค์ประกอบในการทำพลุและดอกไม้ไฟ รวมไปถึงการเป็นองค์ประกอบของวัตถุระเบิดต่าง ๆ ในขณะที่โซเดียมคลอเรตถูกใช้เป็นยาฆ่าหญ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสวนยาง โดยที่สามารถฆ่าได้แม้กระทั่งตอยาง ดังนั้นเราจึงมักจะนึกถึงว่าโซเดียมคลอเรตไม่มีพิษไม่มีภัย แต่อย่าลืมว่าถ้าจะใช้สารตัวนี้ต้องให้ความระมัดระวังเช่นเดียวกับการใช้โพแทสเซียมคลอเรต

คำถามที่ตามมาอีกข้อหนึ่งก็คือระหว่างสารทั้งสองอย่างนี้ จะเลือกใช้อะไรดี เรื่องนี้ถ้าจะมองในแง่ของความสามารถในการเร่งดอกลำไยแล้ว น่าจะใช้ได้พอ ๆ กัน ขึ้นอยู่กับว่าในแต่ละพื้นที่สามารถหาสารชนิดใดได้ง่ายกว่าและราคาถูกกว่ากันเท่านั้นเอง  อัตราการใช้และวิธีการใช้ก็เรียกได้ว่าไม่แตกต่างกัน แต่หากจะมองในเรื่องของการตกค้างของสารในดินแล้ว หลายคนอาจวิตกว่าถ้าใช้โซเดียมคลอเรตไปนาน ๆ อาจทำให้ดินเค็มได้ เพราะว่ามีโซเดียมตกค้างในดินมากเกินไป แต่ถ้าใช้โพแทสเซียมแล้วอาจมีข้อดีกว่าตรงที่โพแทสเซียมจัดเป็นปุ๋ยที่พืชต้องการมากตัวหนึ่ง ดังนั้น โพแทสเซียมคลอเรตอาจมีจุดเด่นกว่าในข้อนี้เอง อย่างไรก็ตาม หากไม่ได้ใช้กันมากมายนัก ก็ไม่น่าจะต้องวิตกเรื่องเกลือโซเดียมตกค้างก็ได้ เพราะว่าถ้ามีระบบการให้น้ำที่ดี ก็สามารถระบายเกลือออกจากพื้นที่ได้เช่นกัน อย่างที่บอกไว้แต่แรกว่าการจะเลือกใช้สารตัวใดนั้น ก็คงต้องมองที่ว่าเราสามารถหาซื้อสารนั้นได้ง่ายหรือไม่ และราคาถูกกว่าหรือไม่ เป็นสำคัญ

ทั้งโซเดียมคลอเรตและโพแทสเซียมคลอเรตเป็นเกลือที่มีลักษณะเป็นผลึกสีขาวเหมือนเกลือแกง และเมื่อได้รับความชื้นก็มักจะจับตัวกันเป็นก้อนแข็ง มีข้อแนะนำว่าถ้าเป็นก้อนแข็ง ก็ห้ามทุบให้แตกโดยใช้ค้อนหรือของแข็งอื่น ๆ ไปตีให้แตก เพราะว่าอาจเกิดระเบิดได้ วิธีที่แนะนำคือให้วางบนแผ่นพลาสติก แล้วใช้ขวดกลิ้งบดไปมาให้ละเอียด แต่ความจริงแล้ว หากเราใช้วิธีนำมาผสมน้ำแล้วราดใต้ต้นลำไย ตามคำแนะนำที่ใช้กันทั่วไปแทนที่จะหว่านเป็นผงอย่างที่เคยทำกันมา ก็ไม่มีความจำเป็นต้องไปทุบก้อนคลอเรตเหล่านั้นให้แตกเป็นชิ้น เพียงแต่ชั่งน้ำหนักให้ได้ตามที่ต้องการแล้วเอามาละลายน้ำได้เลย วิธีนี้น่าจะปลอดภัยกว่า

อย่างที่บอกไว้ว่าเกลือคลอเรตเป็นผลึกสีขาวคล้ายเกลือแกง ดังนั้น ถ้าไปเจอคลอเรตที่มีสีอื่น ๆ อย่างเช่นสีชมพู ก็บอกได้เลยว่าไม่ใช่คลอเรตบริสุทธิ์ ดังนั้นเมื่อจะเทียบราคาว่าถูกหรือแพง ก็คงต้องดูว่าคลอเรตดังกล่าวมีเนื้อสารจริงอยู่กี่เปอร์เซ็นต์ เพราะว่าบางทีดูว่ามีราคาถูกแต่มีเนื้อสารเพียงนิดเดียว ถ้าคิดปริมาณเนื้อสารจริงแล้วอาจแพงมากก็ได้ ตอนนี้ก็เริ่มเป็นช่วงที่ชาวสวนหลายคนเตรียมใช้คลอเรตเพื่อเร่งดอกลำไยกันแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งแถบภาคกลาง เพื่อให้ได้ผลผลิตลำไยออกมาก่อนฤดู ดังนั้น ถ้าหากจะใช้ให้ได้ผลและปลอดภัย ก็คงต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับสารนี้ให้ดีก่อนครับ

อ้างอิง:โดย พีรเดช ทองอำไพ | วันที่เพิ่ม : 20 กรกฎาคม 2549 
http://www.arda.or.th/easyknowledge/easy-articles-detail.php?id=357


                                               สารโซเดี่ยมคลอเรต ปัจจุบันหาซื้้้้้อยากมาก

ระยะใบที่พร้อมลงสารคลอเรต

ใบเพสลาล ใบชุดที่ 2 หรือ3 เป็นใบที่ กลางแก่กลางอ่อน คือเป็นใบที่ มีสีเขียวอ่อน กำลังจะขึ้นสีเขียวแก่ ใบมีลักษณะแข็ง ระยะนี้เรา สารมารถลงสารคลอเรตได้ 

                 ลักษณะใบเพสลาด (แบบนี้ทืบเกินไปต้องแต่ออกให้โล่งอากาศถ่ายเทได้มากกว่านี้)

่ก่อนลงสารคลอเรต จะมีการพ่นสารอาหารเพื่อเตรียมความพร้อมในการสร้างดอก เร่งใบแก่ เติมฐาตุอาหารที่อาจจะขาดไปไม่เพียงพอในการสร้างตาดอก โดยพ่น สุตรผสมดังนี้ 


สาหร่าย ช่อทอง                                          200  ซีซี
แคลเซี่ยมโบร่อน เบสแคลพลัส                 200  ซีซี
น้ำตาลทางด่วนแอ็กชั่น                                 200  ซีซี
ปุ๋ยสะสมอาหารสร้างตาดอก                             1 กิโลกรัม
น้ำเปล่า                                                       200  ลิตร

โดยพ่นก่อนลงสาร 7-10 วัน 





หลังจากนั้น เริ่ม กระบวนการเครียร์ ใต้ต้นลำไยให้โล่ง เอาใบไม้ ออกให้หมดเพื่อเตรียมลงสารคลอเรต 

การลงสารคลอเรต




การผสมในถัง 200 ลิตร สำหรับโซเดี่ยมบริสุทธิ์ ใช้ 5 กก ต่อน้ำ 200 ลิตร ละลายทันที







สารโซเดี่ยมคลอเรตที่ผสมแล้ว พ่นรอบทรงพุ่ม กว้างประมาณ 50 ซม. 200 ]ลิตรพ่นได้ประมาณ 20-30 ต้น

และเมื่อลงสารคลอเรตทางดินเสร็จแล้ว 2 วันนำน้ำเปล่ามาพ่นลงทับบริเวณที่ลงสารเดิม ทำ 2 ครั้งห่าง 7 วัน 

หลังจากลงสารคลอเรตทางดินครบ 5 วัน พ่นสารคลอเรตทางใบ 2 ครั้งห่าง 7 วัน 


เป็นการเสร็จสิ้นกระบวนการลงสารคลอเรต ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก 

สนใจสารคลอเรต ทางดิน และทางใบ ติดต่อ เพสบุ๊ค เกษตรพลังบวก หรือโทร 0613477478 

ไม่มีความคิดเห็น: